ข่าวภูมิภาค 29 มกราคม 2565 - ข่าวดึก 7HD - เกิดอุบัติเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนท้ายรถเก๋งที่อยู่ด้านหน้า ก่อนเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าพลิกตะแคง คนขับรถกระบะ กระเด็นออกมานอกรถ ศีรษะถูกทับใต้ท้องรถอาการสาหัส คนขับรถเก๋งคาดสาเหตุน่าจะเกิดจากหลับใน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 11. 00 น. บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ตำรวจ สน.
นาฬิกาชีวิตที่ควบคุมอยู่ภายในร่างกายท่านนั้นจะส่งสัญญาณทำให้ท่านเกิดภาวะง่วงนอนอยู่ 2 ช่วงเวลาในหนึ่งวัน โดยครั้งแรกจะเป็นช่วงค่ำที่ท่านจะเข้านอน ส่วนครั้งที่สองจะเกิดซ้ำในอีก 12 ชั่วโมงถัดไป หรือช่วงบ่ายนั่นเอง 2. ช่วงเวลากลางวันและช่วงเวลากลางคืน ก็มีผลต่อนาฬิกาชีวิตที่ควบคุมอยู่ภายในร่างกายท่านเช่นกัน 3.
นอนหลับพักผ่อนไม่เป็นเวลา 3. การนอนไม่หลับ หรือนอนหลับไม่สนิทในช่วงเวลากลางคืน 4. ทานยาที่กินแล้วง่วงนอนก่อนการขับรถ เช่น ยาแก้แพ้ 5. ดื่มของมึนเมา (แอลกอฮอล์) อาการก่อนหลับใน เป็นยังไง? เพื่อนๆ ลองสำรวจตรวจเช็คตัวเองให้ดีว่าในระหว่างขับรถเพื่อนๆ มีอาการแบบนี้หรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าเพื่อนๆ มีโอกาสเกิดอาการ หลับในขณะขับรถ อย่างแน่นอน! 1. ขับรถออกนอกเส้นทางส่ายไปส่ายมา 2. เห็นภาพทุกอย่างรอบข้างเบลอ 3. รู้สึกง่วงนอนแบบตาจะปิด 4. ไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ลืมตาค้างไว้ได้ 5. หาวบ่อยตลอดเส้นทางการขับรถ 10 วิธีป้องกันการหลับในที่ใครๆ ก็ทำได้ อาการ ขับรถหลับใน ที่เกิดขึ้นใครว่าหาทางแก้ไม่ได้ล่ะ เพียงเพื่อนๆ ลองทำตามวิธีด้านล่าง รับรองเลยว่าจะไม่เกิด การหลับใน ขึ้นอย่างแน่นอน 1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7-9 ชั่วโมง/วัน 2. หาผลไม้รสเปรี้ยวกิน เช่น มะม่วงเปรี้ยว มะยม มะขาม จะช่วยให้ระบบประสาทตื่นตัวได้ดียิ่งขึ้น 3. ดื่มน้ำเย็น น้ำหวาน เช็ดหน้าเช็ดตาด้วยผ้าเย็น จะทำให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น 4. จอดรถแวะงีบสัก 10-20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รับการพักผ่อน เพราะหากร่างกายได้รับการพักผ่อนบ้าง จะช่วยบรรเทา อาการหลับใน ให้ลดลงไปได้ 5.
05 (ระดับอ้างอิงตามกฎหมายต้องต่ำว่า 0. 05) หมายความว่าหากเราอดนอน 17- 19 ชั่วโมงแล้วไปขับรถก็เท่ากับว่าทำผิดกฎหมาย สัญญาณเตือนว่าเรา "หลับใน" การขับรถในขณะง่วง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับรวมถึงผู้โดยสารถึงแก่ชีวิตได้ แม้ว่าอาการหลับในจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็นานพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเราจึงควรตระหนักรู้ถึงสัญญาณเตือนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้แวะพักผ่อนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ 1. หาวบ่อยและต่อเนื่อง 2. กระพริบตาถี่ ๆ ลืมตาไม่ขึ้น 3. มองข้ามสัญญาณไฟและป้ายจราจร 4. ใจลอยไม่มีสมาธิ 5. รู้สึกหนักศีรษะ หงุดหงิด กระวนกระวาย 6. ขับรถส่ายไปมาหรือออกนอกเส้นทาง 7. จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาในช่วง 2-3 กิโลเมตรที่ผ่านมา "หลับใน" ป้องกันได้อย่างไร? 1. นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมง อย่างน้อย 2 คืนก่อนวันเดินทาง 2. ทานอาหารแต่พอดี อย่ากินอิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงได้ 3. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 4. ก่อนเดินทางไม่ควรกินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม 5. จิบน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะการขาดน้ำจะทำให้อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าง่าย 6. งดดื่มกาแฟ น้ำอัดลม ชา โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนเดินทาง 2-3 วัน เพราะอาหารเหล่านี้มีคาเฟอีนที่ทำให้นอนไม่หลับสนิท นอกจากนี้ นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส. )
นครศรีธรรมราช - หนุ่มขับรถหกล้อหลับในชนท้ายบรรทุกพ่วง ก่อนเสียหลักชนราวข้างทางใต้สะพานลอย ติดคาซากรถได้รับบาดเจ็บ 2 ราย 9 ตุลาคม 2564 เวลา 07. 00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร. ต. อ. สัมภาส ผลถาวร รอง สว ( สอบสวน) สภ. ทุ่งใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถหกล้อเสียหลักชนราวสะพานลอย คนขับและผู้โดยสารติดคาซากรถ เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ขาล่องใต้ หมู่ 10 ต. ทุ่งใหญ่ อ. ทุ่งใหญ่ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง, กู้ภัยศรัทธาสามัคคี และสยามร่วมใจปู่อินทร์ เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนใกล้สะพานลอยพบรถหกล้อสีขาว ทะเบียน 71-1786 เพชรบุรี สภาพเสียหลักไหล่ทาง หน้ารถพังยับ สวนคนขับและผู้โดยสารรวม 2 ราย ถูกอัดติดคาห้องผู้โดยสารทราบชื่อนายฉัตรชัย สุคนธมาศ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232/3 หมู่ 4 ต. ท่างิ้ว อ. เมือง จ. นครศรีธรรมราช เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บขาถูกอัดติดใต้คอนโทรลรถภายในห้องผู้โดยสาย ส่วนอีกรายชื่อ น. ส. ขัตติยา สงสัย อายุ 30 ปี เป็นภรรยาของคนขับ ร่างติดคาซากห้องผู้โดยสารเหมือนกัน แต่บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือโดยใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง งัดประตูรถนำคนเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ให้แพทย์ช่วยเหลือ ล่าสุดทั้ง 2 รายอาการปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อยริมถนนพบรถบรรทุกพ่วงจอดริมถนน ท้ายพ่วงมีร่องรอยถูกชนท้าย สอบสวนคนขับ เบื้องต้น ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถหกล้อบรรทุกสินค้ามากับพร้อมภรรยาออกจาก จ.
หนุ่มขับเก๋ง หลับใน รถเสียหลักพุ่งอัดต้นไม้พังยับ เมีย-ลูก3ขวบดับสลด อุบัติเหตุสลด หนุ่มขับเก๋งพาครอบครัวไปเยี่ยมญาติ รถเสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนน ชนอัดต้นไม้พังยับ เมีย-ลูกสาว3ขวบ เสียชีวิตคาที่ ตำรวจคาด หลับใน เมื่อเวลา 06. 28 น. วันที่ 31 พ. ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ท่าม่วง รับแจ้งเหตุรถเก๋งเสียหลักชนต้นไม้ บริเวณร่องเกาะกลางถนน ถ. แสงชูโตสายนอก ใกล้สี่แยกหนองเสือ ต. วังศาลา อ. ท่าม่วง จ. กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ แพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ข่าวสด เพิ่มเพื่อน ที่เกิดเหตุบริเวณร่องเกาะกลางถนน พบรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน กพ6034 ชลบุรี สภาพด้านหน้าชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ในร่องเกาะกลางถนนจนพังยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บชื่อ นายบุญนำ ยอดศิริ อายุ 23 ปี สภาพอยู่ที่นั่งคนขับ ส่วนที่นั่งข้างคนขับพบศพ น. ส. สุธาทิพย์ ประจบ อายุ 25 ปี และเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือนำทั้งหมดออกจากรถ และรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล สภาพรถเก๋งที่เกิดอุบัติเหตุ ด้านตำรวจคาดคนขับ หลับใน สภาพรถเก๋งที่เกิดอุบัติเหตุ ด้านตำรวจคาดคนขับ หลับใน จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นพ่อแม่ลูกกัน ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งออกจากบ้านในพื้นที่ต.
นอนหลับให้เพียงพอ วิธีแก้ที่ตรงจุดที่สุดคงหนีไม่พ้น การนอนหลับให้เต็มอิ่มอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และมีสมาธิในการขับรถมากยิ่งขึ้น โดยจากการศึกษาพบว่า ผู้ขับขี่ที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน มีโอกาสประสบอุบัติเหตุมากกว่าคนนอนเต็มอิ่มถึง 5 เท่าเลยทีเดียว 2. ปรับตารางนอนในชีวิตประจำวัน บางครั้งการหยุดพักผ่อนล่วงหน้า 8 ชั่วโมงอาจไม่เพียงพอ เพราะหลายคนประสบปัญหานอนน้อยหรือนอนหลับไม่สนิทติดต่อกันหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้เกิดอาการง่วงซึมตลอดเวลา ตอบสนองช้าและเสี่ยงต่อการหลับในระหว่างขับรถ ดังนั้นผู้ขับขี่ควรปรับตารางนอนในชีวิตประจำวันให้ลงตัว หรืออย่างน้อยควรพักผ่อนให้เต็มที่ติดต่อกัน 3-4 วันต่อสัปดาห์ 3. แวะพักระหว่างทาง ในระหว่างขับรถสมองและร่างกายของผู้ขับขี่ต้องทำงานหนักไปพร้อม ๆ กัน ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งเสี่ยงต่ออาการหลับใน ทางที่ดีควรหยุดพักทุก ๆ 2 ชั่วโมง หรือทุก 160 กิโลเมตร เพื่อล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา หรือหากผู้ขับขี่รู้สึกง่วง แนะนำว่าควรตั้งนาฬิกาปลุกแล้วงีบหลับสัก 20-30 นาที วิธีนี้จะช่วยป้องกันการหลับในได้ดีมาก ๆ 4.
นครพนม อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยขับรถทางไกลแบบนี้ และเป็นครั้งแรกก็เกิดอุบัติเหตุสูญเสียพี่ชาย พี่สะใภ้ และญาติ " เบื้องต้น ร. ชัยโชจน์ ธีระวรรณวัชร์ รอง สว. อุดรธานี ได้แจ้งข้อกล่าวหา น. ชุลีพร สัมฤทธิ์ คนขับว่า ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต, ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณจุดเกิดเหตุเมื่อ 3 ปีก่อน เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว รถชนที่กั้นทางไม่มีใครเสียชีวิต แต่ที่กั้นทางเสียหาย ผ่านมายังไม่ได้รับการซ่อมแซม อยู่ระหว่างการดำเนินการเรื่องคดี โดยเหล็กกั้นทางมีลักษณะง้างออกมา เมื่อเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ รถได้ชนเข้ากับเหล็กกั้นทางชำรุด ทำให้อุบัติเหตุมีความรุนแรงมากขึ้น….